คดีทางเพศ’เด็ก-สตรี’ขั้นวิกฤต
เหยื่อหลอน‘ติดเซ็กซ์-แค้นชาย‘
ผู้สื่อข่าว “มติชน” รายงานเมื่อวันที่ 10 ตุลาคมว่า ปัญหาสังคมโดยเฉพาะการกระทำความรุนแรงต่อเด็กและสตรีเป็นตัวสะท้อนให้เห็นภาพของสังคมที่นับวันจะทรามลงอย่างเห็นได้ชัด ล่าสุด บรรดามูลนิธิ องค์กรที่ทำงานเกี่ยวข้องกับเด็กและสตรีได้รวบรวมและรายงานสถิติของเหยื่อผู้ถูกกระทำ ในปี 2551-2553 พบมีอัตราสูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด สถิติเด็กที่ถูกทารุณกรรมทางเพศจากศูนย์พิทักษ์สิทธิเด็ก เผยว่า ปี 2551 มีเหยื่อผู้ถูกกระทำทั้งหมด 81 ราย แบ่งเป็นเพศชาย 6 ราย และเพศหญิง 75 ราย ปี 2552 มีผู้ถูกกระทำ ถึง 125 ราย แบ่งเป็นเพศชาย 4 ราย เพศหญิง 121 ราย ศูนย์ประชาบดีรายงานว่า ในปี 2551 มีเหยื่อผู้ถูกกระทำจำนวน 161 คน ในปี 2552 มีเหยื่อผู้ถูกกระทำ 188 คน และในช่วงปี 2553 ตั้งแต่เดือนมกราคมถึงกันยายนจำนวนเหยื่อผู้ถูกกระทำมีแล้ว 157 ราย ขณะที่มูลนิธิเพื่อนหญิงเปิดเผย ปี 2551 มีจำนวน 29 ราย อายุน้อยที่สุด 3 ขวบ และปี 2552 จำนวน 41 ราย อายุน้อยที่สุด 3 ขวบ และอายุที่เสี่ยงต่อการถูกกระทำความรุนแรงมากที่สุด คือ อายุระหว่าง 11-15 ปี
น.ส.สุเพ็ญศรี พึ่งโคกสูง หัวหน้าศูนย์พิทักษ์สตรี มูลนิธิเพื่อนหญิง กล่าวว่า ปัญหาเด็กถูกล่วงละเมิดทางเพศปัจจุบันนี้เข้าสู่ขั้นวิกฤตแล้ว เหยื่อที่ถูกกระทำแต่ละรายมีสภาพจิตใจที่ย่ำแย่ อีกทั้งปัจจุบันเหยื่อยังถูกกระทำด้วยวิธีการที่โหดเหี้ยมมากขึ้น ที่น่าตกใจคือแนวโน้มผู้หญิงถูกรุมโทรมมีมากขึ้นด้วย
“เด็กที่ถูกล่วงละเมิดทางเพศทุกคนบอบช้ำ มีทั้งอาการนอนไม่หลับ ซึมเศร้า บางคนเครียดถึงขั้นมีอาการทางจิต ถอนผมตัวเองจนหัวล้านและบางคนต้องส่งเข้าโรงพยาบาลรักษาอาการทางจิต อาการที่เห็นได้ชัดของเหยื่อ แบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม คือเด็กติดเซ็กซ์กับเด็กขยะแขยงเซ็กซ์ เด็กติดเซ็กซ์มีตั้งแต่เด็กเล็กๆ ไปถึงเด็กโต เขาจะรู้สึกว่าตัวเองไม่มีค่าแล้ว จึงปล่อยเนื้อปล่อยตัวยิ่งขึ้น ไวต่อเพศสัมพันธ์ ส่วนเด็กที่ขยะแขยงเซ็กซ์จะมีพฤติกรรมรังเกียจผู้ชายและแต่งกายรัดกุม แต่สิ่งที่เด็กพวกนี้เป็นเหมือนกันคือ จะมีภาพหลอนเหตุการณ์แย่ๆ ตามหลอกหลอนพวกเขาไปตลอด น่าสงสารมาก” น.ส.สุเพ็ญศรี กล่าว
น.ส.สุเพ็ญศรี กล่าวต่อไปว่า เด็กส่วนใหญ่บอบช้ำ เพราะขาดการเยียวยาฟื้นฟูจิตใจอย่างต่อเนื่อง ทั้งที่ประเทศไทยรับรองอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็กจากสหประชาชาติ แต่ยังไม่คำนึงถึงเด็กเป็นศูนย์กลางยังไม่ปฏิบัติตามอนุสัญญาอย่างจริงจัง สำหรับการแก้ปัญหา หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ รวมถึงสังคมต้องให้ความตระหนัก การแก้ปัญหาที่สำคัญคือ การศึกษาควรสอนเรื่องเพศตั้งแต่วัยเด็ก ทักษะการปฏิเสธต้องสอนให้เข้าใจในชั้นเรียน อีกทั้งสอนศิลปะป้องกันตัวให้กับเด็กผู้หญิงด้วย เช่น เทควันโด ไอคิโด หรือยูโด
นางวิไล (นามสมมุติ) มารดาของเด็กหญิงวัย 6 ขวบ ที่ถูกพ่อแท้ๆ กระทำทารุณกรรมทางเพศ ขณะนี้อยู่ในการดูแลของบ้านพักฉุกเฉิน กล่าวว่า จากเหตุการณ์นี้ กลัวลูกจะไม่ลืมเรื่องนี้ แต่ได้ย้ำให้ลูกลืมเรื่องนี้แล้ว ไม่ให้คิดถึงอีก อย่างไรก็ตาม ขณะนี้กังวลมาก เพราะลูกสาวกลายเป็นเด็กที่กลัวผู้ชายทั้งเพื่อนและผู้ใหญ่ ไม่เล่นหรือพูดคุยกับผู้ชายเลย ยิ่งไปกว่านั้น ยังมีพฤติกรรมที่ชอบนอนจับอวัยวะเพศบ่อยๆ ด้วย
“น้องบอกเหตุผลว่าทำอย่างนี้แล้วสบาย ดิฉันก็ต้องแก้ปัญหาด้วยการขอมือเขามาจับแล้วนอนหลับไปด้วยกัน นอกจากนี้ น้องยังชอบนอนตรงมุมโต๊ะ หรือขอบเตียงแล้วเอาอวัยวะเพศไปถูๆ ก็ต้องแก้ปัญหาด้วยการให้เขาไปทำกิจกรรมอย่างอื่น จะได้ลืม ตอนนี้กังวลมากกลัวน้องจะติดไปจนโต” นางวิไลกล่าว
ทางด้านเด็กอายุ 16 ปี ซึ่งถูกทั้งเด็กและผู้ใหญ่รุมโทรม ขณะนี้อยู่ในความดูแลของบ้านพักฉุกเฉินเช่นกัน กล่าวทั้งน้ำตาว่า ยังจำเหตุการณ์ที่ถูกกระทำได้ดี ทั้งที่อยากลืม แต่ลืมไม่ได้ จะตามมาหลอกหลอนอยู่เรื่อยๆ ตอนนี้เกลียดผู้ชายมาก ไม่อยากให้เข้ามาใกล้ขยะแขยง ไม่อยากให้ชีวิตต้องมาเจอเรื่องเลวร้ายแบบนี้
ที่มา : หนังสือพิมพ์มติชน
update : 11-10-53
อัพเดทเนื้อหาโดย : สุนันทา สุขสุมิตร