กลไกใหญ่ ‘ประชารัฐ’ ผลักดันยั่งยืนธุรกิจทำเพื่อสังคม

ที่มา : หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ 


กลไกใหญ่ 'ประชารัฐ' ผลักดันยั่งยืนธุรกิจทำเพื่อสังคม thaihealth


กลไกใหญ่ 'ประชารัฐ' ผลักดันยั่งยืนธุรกิจทำเพื่อสังคม


เรื่องของ ‘ธุรกิจเพื่อสังคม’ นับเป็นเทรนด์ที่กำลังได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก และเมื่อเร็ว ๆ นี้ก็ได้มีการจัดงานเสวนาในชื่องาน สานพลังบริษัทจดทะเบียนเพื่อสังคมไทยยั่งยืน โดยตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ซึ่งภายในงานเสวนาได้มีการแบ่งประเด็นออกเป็นหัวข้อ ต่าง ๆ อาทิ การส่งเสริมการมีรายได้และการมีงานทำของผู้พิการ, การส่งเสริมการมีรายได้และการมีงานทำของผู้สูงอายุรวมถึงเสวนาเกี่ยวกับหัวข้อที่อยู่อาศัยและสิ่งแวดล้อมเพื่อที่อยู่อาศัย โดยมีผู้บริหารจากแต่ละองค์กร แต่ละหน่วยงาน เข้าร่วมงานและให้ข้อมูลในเรื่องนี้กันอย่างคับคั่ง…


การเสวนาดังกล่าวนี้ เป็นกิจกรรมหนึ่งตามนโยบายที่ทาง ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นประธานประชุมคณะทำงานประชารัฐเพื่อสังคม (E6) ครั้งที่ 1 ได้มอบหมายให้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) และสภาหอการค้า ไทย ขับเคลื่อนพลังพัฒนาทางสังคม โดยมีเป้าหมายให้เกิดการ จ้างงานคนพิการ 1.5 หมื่นอัตรา ในปี 2561 รวมถึงมีการ พัฒนาที่อยู่อาศัย เพิ่มการออมเพื่อผู้สูงอายุ และการออกมาตรการ ความปลอดภัยทางถนน รวมถึง ลดการเจ็บตายของคนวัยทำงาน มีชื่อเรียกแนวทางนี้ว่า “5 Quick Win”


นอกจากนั้น ภายในงานดังกล่าวยังได้มีการเชิญ "ภาคเอกชน" ที่เป็น บริษัทจดทะเบียนกับโครงการประชารัฐเพื่อสังคม เข้าร่วมนำเสนอโครงการที่ทำแล้วประสบผลสำเร็จเป็นอย่างดี โดยหลาย ๆ โครงการนั้นก็มีข้อมูลที่น่าสนใจไม่น้อย อย่างเช่น "โครงการ 60ปี+มีไฟ" ของทางบริษัท ซีเอ็ดดูเคชั่น จำกัด (มหาชน) เป็นต้น…


มีเป้าหมายจะแก้ไขปัญหาสังคมให้ผู้สูงอายุ เรื่องนี้ ทนงศักดิ์ โชติยุทธ์ ผู้บริหารบริษัทดังกล่าว ได้ให้ข้อมูลว่า…ปัญหาสังคมผู้สูงอายุนั้น ไม่ใช่เกิดเฉพาะแต่ในประเทศไทย แต่เป็นปัญหาสำคัญทั่วโลก ทำให้คิดว่า…น่าจะทำอะไรกับประเด็นดังกล่าวได้ โดยพบว่า…ผู้ใหญ่หลายคนที่เกษียณการทำงาน มักเกิดปัญหาสมองเสื่อมเร็ว…ขณะที่เมื่อผู้สูงอายุอยู่บ้าน ลูกหลานก็จะเป็นห่วง จึงนำสู่โครงการฯ ดังกล่าว ซึ่งหลังจากได้ประกาศออกไป ปรากฏว่ามีผู้สูงอายุมาสมัครร่วมโครงการกว่า 1,000 คน


'บางคนนั้นเคยมีเงินเดือนแต่ละเดือนร่วม ๆ แสน แต่ก็ยอมรับเงินเดือนที่น้อยกว่าเดิม 10 เท่า ทั้งหมดนี้ก็เพียงเพราะแค่อยากได้โอกาสทำงานอีกครั้งนั่นเอง" …ผู้ให้ข้อมูลคนเดิมกล่าว พร้อมกับระบุต่อไปว่า…ภายหลังการประเมินผล หลังจากดำเนินงานผ่านไป 1 เดือน ปรากฏว่า…มีผู้สูงอายุหลายคนบอกว่า…รู้สึกสดใสและมีชีวิตชีวาขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง  ทั้งนี้ แม้โครงการนี้จะไม่สามารถรองรับกับจำนวนผู้สูงอายุที่ปัจจุบันมีจำนวนนับล้าน ๆ คนได้ทั้งหมด แต่ก็อยากจะให้โครงการนี้เป็นจุดเริ่มต้นที่จะรณรงค์ให้ทุก ๆ องค์กรได้ร่วมกันให้โอกาสกับผู้สูงอายุเหล่านี้ เพราะหลาย ๆ ตำแหน่งงานนั้น ผู้สูงอายุเหล่านี้ยังสามารถทำงานได้อยู่


ทางด้าน นวลพรรณ ล่ำซำ กรรมการผู้จัดการ และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมืองไทยประกันภัย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า…จากการที่ได้นำคนพิการไปร่วมแข่งขันกีฬาคนพิการที่ประเทศมาเลเซียเมื่อหลายปีก่อนนั้น ทำให้ได้ค้นพบว่า…คนพิการก็มีศักยภาพมากและถ้าหากนำศักยภาพออกมาจะทำให้คนพิการรู้สึกมีคุณค่าในตนเองมากขึ้น ทั้งนี้ โครงการที่บริษัทนั้น ได้จ้างคนพิการตาบอดเข้าทำงานเป็นพนักงานรับโทรศัพท์ และคนพิการที่นั่งรถเข็นให้มาทำหน้าที่คีย์ข้อมูลลงในคอมพิวเตอร์ ซึ่งถือเป็นความภูมิใจของบริษัทที่มีส่วนในการช่วยเหลือคนพิการเหล่านี้…


ผู้บริหารคนเดิมให้ข้อมูลอีกว่า…นอกจากเรื่องของการจ้างงานแล้ว ยังได้มีการจัดทำโครงการสร้างงานให้คนพิการขึ้นเมื่อ 4 ปีที่แล้ว โดยได้เข้าไปส่งเสริมให้คนพิการทำอาชีพเกษตรกรรมรูปแบบต่าง ๆ เช่น เลี้ยงหมู เลี้ยงไก่ไข่ ปลูกผักปลอดสารพิษ โดยไปนำร่องที่ จ.สระแก้ว และต่อมาก็ได้ขยายไปยัง จ.ราชบุรี และ จ.นครราชสีมาในปัจจุบัน ทั้งนี้ ในฐานะที่เป็นหนึ่งในตัวแทนของโครงการนี้ ก็อยากเชิญชวนให้บริษัทอื่น ๆ เข้ามาร่วมโครงการนี้กันเยอะ ๆ…


เพื่อ 'ช่วยเหลือผู้ด้อยโอกาส" ผ่านโครงการนี้ ด้วยการ 'ช่วยสร้างอาชีพ" เพื่อให้รู้สึกมีคุณค่า ทั้งนี้ วิชัย อัศรัสกร รองประธานกรรมการหอการค้าไทย กล่าวถึงกิจกรรมที่เกิดขึ้นภายใต้โครงการดังกล่าวนี้ว่า…ปกติภาคเอกชนแต่ละบริษัทจะมีการทำโครงการซีเอสอาร์กันอยู่แล้ว แต่ในส่วนของ ประชารัฐเพื่อสังคม นั้น จะเป็นการยกระดับให้สูงขึ้น เพราะมองในภาพรวมระดับประเทศเป็นหลัก ซึ่งข้อมูลที่ได้จากเวทีเสวนาครั้งนี้เป็นข้อมูลที่เป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อการพัฒนาและการดำเนินโครงการในอนาคตให้ดียิ่งขึ้น เพราะทำให้ทราบว่าปัญหาคืออะไร?


'รัฐบาลจะมีข้อมูลในระดับรัฐบาล แต่ไม่มีข้อมูลในระดับประชาสังคม ซึ่งข้อมูลจากโครงการต่าง ๆ ที่ภาคเอกชนดำเนินการนี้ ทำให้รัฐบาลมีข้อมูลเชิงลึกมากขึ้น และจะเป็นประโยชน์อย่างมากในการใช้เป็นแนวทางเพื่อการแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืนต่อไปในอนาคต" …รองประธานฯ หอการค้าไทยระบุ

Shares:
QR Code :
QR Code