‘กระบี่’ นำร่อง ‘อ่านยกกำลังสุขทั่วเมือง’
หนังสือและการอ่าน เป็นสื่อที่มีประสิทธิภาพในการเสริมสร้างพัฒนาการเด็ก เพราะเมื่อเด็กอ่านหรือฟังเรื่องราวจากหนังสือจะค่อย ๆ เรียนรู้ เลียนแบบ และสะสมไปทีละเล็กทีละน้อย จนกระทั่งยึดถือเป็นแนวปฏิบัติเมื่อเจริญวัยขึ้น
แผนงานสร้างเสริมวัฒนธรรมการอ่าน สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) มองเห็นความสำคัญในการส่งเสริมพฤติกรรมการอ่านอย่างต่อเนื่องจนเกิดเป็นนิสัยของบุคคลในทุกพื้นที่ จึงเดินหน้าประชุมแปลยุทธศาสตร์นครแห่งการอ่านสู่การปฏิบัติอย่างมีส่วนร่วม โดยนำร่องพื้นที่ต้นแบบ จังหวัดกระบี่ ภายใต้แนวคิด "สร้างคนคุณภาพ อ่านยกกำลังสุขทั่วเมือง"
นางสุดใจ พรหมเกิด ผู้จัดการแผนงานสร้างเสริมวัฒนธรรมการอ่าน กล่าวถึงนิยาม "นครแห่งการอ่าน" ว่า ประชาชนทุกเพศ ทุกวัย จะสามารถเข้าถึงบริการการอ่านอย่างทั่วถึง ทุกที่ และเท่าเทียม เป็นสังคมที่มีสื่อการอ่านที่เพียงพอ ทุกคนเกิดความตระหนัก เห็นคุณค่าและใช้ความรู้ในการสร้างเสริมคุณภาพชีวิต
โดยมีองค์ประกอบของนครแห่งการอ่าน 4 ข้อ คือ 1. โครงสร้างทางสังคม ยอมรับวัฒนธรรมการอ่าน และมีนโยบายหนุนเสริมให้เกิดการอ่าน 2. มีทรัพยากรที่ทำให้เกิดการอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา มีความพร้อมของหนังสือเพื่อคนทุกวัยและเหมาะสมกับบริบทท้องถิ่น 3. มีกระบวนการ มีกลไกจัดการเรียนรู้ ที่ทำให้การอ่านสามารถเกิดขึ้นได้ในวิถีชีวิต และ 4. มีการฟื้นฟูถ่ายทอดจากรุ่นสู่รุ่น
แผนงานสร้างเสริมวัฒนธรรมการอ่าน บอกอีกว่า สำหรับประเทศไทย เมื่อมีการลงพื้นที่ไปทำงานด้านการอ่านกับโรงเรียนหรือสถานศึกษาโดยใช้ยุวทูตการอ่าน เพื่อจับคู่บัดดี้ช่วยเพื่อนที่อ่านไม่ออกเขียนไม่ได้ สามารถช่วยพัฒนาการอ่านของเด็ก ๆ ได้รวดเร็วขึ้น เรื่องนี้จึงเป็นยุทธศาสตร์ที่ง่ายมาก
ทั้งนี้การเลือกจังหวัดกระบี่เพื่อนำร่องก่อนนั้น เนื่องจากมีผู้นำที่มีความชัดเจนทั้งเรื่องตัวตน ความคิด และนโยบาย อีกทั้งยังเป็นนักอ่านด้วย
เสียงยืนยันจาก นายทรงพล สวาสดิ์ธรรม ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ บอกว่า ตนเชื่อในเรื่องความมหัศจรรย์ของการอ่านเพราะช่วยทั้งเรื่องไอคิวและอีคิวสำหรับเด็ก นอกจากนั้นยังเห็นว่าการอ่านช่วยสานสัมพันธ์ในครอบครัว ตลอดจนส่งผลต่อการพัฒนาประเทศด้วย ดังนั้นเมืองกระบี่จึงยินดีและพร้อมที่จะขับเคลื่อนสู่การเป็นนครแห่งการอ่านอย่างเป็นรูปธรรม
"เมื่อเร็ว ๆ นี้ได้มีการอบรมเชิงปฏิบัติการการใช้สื่อสำหรับเด็กแรกเกิดถึง 3 ปี ในโครงการแรกเกิดเริ่มอ่าน โดยมีวิทยากรมาร่วมถ่ายทอดความรู้และประสบการณ์ให้กับเจ้าหน้าที่สาธารณสุขในโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล อาสาสมัครสาธารณสุข และกลุ่มพ่อแม่ที่สนใจในพื้นที่นำร่อง ได้แก่ อำเภอเมืองและอำเภอเหนือคลอง ซึ่งต่อเนื่องจากวาระจังหวัด เรื่อง เด็กกระบี่ดี… มีอนาคต และกระบี่ … เมืองแห่งการเรียนรู้และสร้าง สรรค์" ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่เล่า
ล่าสุดทางจังหวัดกระบี่ได้เชิญตัว แทนจากทั้ง 8 อำเภอเข้าร่วมกระบวนการแปรยุทธศาสตร์สู่ปฏิบัติการการมีส่วนร่วม โดยวิทยากรจากมูลนิธิสื่อชาวบ้าน (มะขามป้อม) ในครั้งนี้มีตัวแทนยุวทูตการอ่านจากโรงเรียนอนุบาลคลองท่อมเข้าร่วมด้วย
"น้องโอเลี้ยง" หรือ "เด็กชายสยามพล สิงห์ชู" นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 บอกเล่าถึงประโยชน์ของการอ่านให้ฟังว่า การอ่านนั้นช่วยได้หลายเรื่องเลย สำหรับตนจะโดดเด่นมากในเรื่องของความสามารถ อย่างเช่น การร้องเพลง เพราะต้องเริ่มจากการอ่านให้ได้ก่อน และต้องจำเนื้อเพลง ซึ่งมันจะไปเชื่อมโยงกัน
"สำหรับผมคิดว่าเราต้องพยายามฝึกตัวเองให้มีนิสัยรักการอ่าน และพอเราคิดว่าน่าจะโอเคแล้วค่อยไปเผยแพร่ความรู้และชวนเพื่อน ๆ มาอ่าน โดยการเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับเพื่อน ๆ ที่โรงเรียนเองก็มักจะมีกิจกรรมส่งเสริมการอ่านอย่างต่อเนื่อง สำหรับน้อง ๆ ก็จะเน้นกิจกรรมการตอบคำถาม การอ่านนิทาน ก็ถือว่าได้รับความสนใจ และผมก็อยากฝากว่า การอ่านเป็นสิ่งสำคัญที่จะพัฒนาตนเองเพื่อต่อยอดสู่การมีความสามารถอื่น ๆ อยากให้ทุกคนฝึกตัวเองให้มีนิสัยรักการอ่านตั้งแต่วันนี้ เพื่อผลลัพธ์ที่ดีในอนาคตข้างหน้าด้วยครับ" น้องโอเลี้ยงทิ้งท้าย
การอ่านหนังสือนอกจากจะก่อให้เกิดการวางรากฐานของความคิด วิเคราะห์ การสร้างจินตนาการให้กับเด็ก ๆ แล้ว ยังช่วยบ่มเพาะความเกื้อกูลในวัยเติบโตและปูพื้นฐานความเป็นพลเมืองที่พึงประสงค์ นำไปสู่การกำหนดทิศทางของสังคมในอนาคตทั้งทางตรงและทางอ้อมได้อีกด้วย
ที่มา : หนังสือพิมพ์เดลินิวส์