กระตุ้นคนรุ่นใหม่ ฟื้นฟูประเพณีไทย
เมื่อวัฒนธรรมประเพณีไทยเริ่มถดถอย ความหมายที่แท้จริงของแต่ละเทศกาลอันดีงามเริ่มเลือนหายอย่างน่าเป็นห่วง คณะกรรมาธิการการศาสนา คุณธรรม จริยธรรม ศิลปะและวัฒนธรรม วุฒิสภา และองค์กรร่วมจัด ๑๑ องค์กร จึงผนึกกำลังกันกระตุ้นคนรุ่นใหม่ ฟื้นฟูประเพณีไทย
โดยร่วมกับ กระทรวงวัฒนธรรม กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กรุงเทพมหานคร กรมประชาสัมพันธ์ สำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) หอภาพยนตร์ (องค์การมหาชน) ฯลฯ จึงร่วมจัด การจัดโครงการประกวดภาพยนตร์สั้นเพื่อส่งเสริมประเพณีไทยภายใต้กรอบ “การส่งเสริมและฟื้นฟูประเพณีไทยในท้องถิ่น” เพื่อเชิญชวนนักเรียน นักศึกษา ทั่วประเทศ สะท้อนแนวคิดการรณรงค์และอนุรักษ์ไว้ซึ่งอัตลักษณ์ของชุมชนที่ยั่งยืน
หม่อมราชวงศ์วุฒิเลิศ เทวกุล ประธานคณะกรรมาธิการการศาสนา คุณธรรม จริยธรรม ศิลปะและวัฒนธรรม วุฒิสภา ประธานคณะอนุกรรมาธิการศึกษา ส่งเสริม และฟื้นฟูประเพณีไทย และประธานคณะอนุกรรมาธิการดำเนินโครงการจัดประกวดภาพยนตร์สั้นเพื่อส่งเสริมประเพณีไทย กล่าวว่า จุดประสงค์ของการจัดประกวดในครั้งนี้ มีที่มาจากงานสัมมนาเรื่องวิกฤตประเพณีไทยใครจะแก้ เช่น เทศกาลสงกรานต์ และลอยกระทง ที่มีการเปลี่ยนรูปแบบ เปลี่ยนสาระไปจากอดีตค่อนข้างมาก
“แต่เดิมสงกรานต์เน้นความรัก ความอาทร ความผูกพันในครอบครัว แต่ระยะหลังเปลี่ยนไปเน้นความสนุกสนาน ความบันเทิง วิธีการรดน้ำเปลี่ยนไป เพิ่มเติมอบายมุขเข้ามา ทำให้เกิดเหตุรุนแรงทั้งในการเล่นน้ำ และการเดินทาง บ้างก็มีการนำโคโยตี้ไปเต้นตามวัดวา วัยรุ่นปัจจุบันแทบไม่เข้าใจสาระความสำคัญของเทศกาลสงกรานต์ว่าเป็นอย่างไร คนต่างชาติที่มาเที่ยวก็ไม่เข้าใจสาระ เห็นแต่เรื่องสนุกสนาน และอบายมุข เรื่องนี้จึงนับเป็นวิกฤตวัฒนธรรมประเพณีเรื่องหนึ่งที่ทุกฝ่ายต้องร่วมมือกัน เจาะกลุ่มไปสู่เป้าหมายที่เป็นกลุ่มเยาวชน เลยคิดกันว่าน่าจะให้เด็กๆ ทำหนังสั้นไม่เกิน 12 นาทีขึ้นมา โดยมีโจทย์ให้เด็กว่าจะส่งเสริมประเพณีได้อย่างไร”
นอกจากนี้ ประธานคณะอนุกรรมาธิการดำเนินโครงการฯ ยังกล่าวเพิ่มเติมว่า เมื่อหมดเขตการรับผลงานปรากฎมีผู้ส่งผลงานมากพอสมควร แม้บางเรื่องไม่ตรงกับสิ่งที่ต้องการ แต่ในภาพยนตร์ได้สะท้อนคุณค่ามรดกทางวัฒนธรรมที่ช่วยส่งเสริมประเพณี แทรกประเด็นผ่านความเป็นแม่-ลูก ศิษย์-อาจารย์ พระ-ลูกวัดไว้ได้ดี เป็นสิ่งที่มีคุณค่ามากเช่นกัน
ทั้งนี้ มีจำนวนผลงานที่ส่งเข้าประกวดทั้งสิ้น 110 ผลงาน แบ่งเป็นระดับมัธยมศึกษาตอนต้น 16 ผลงาน ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย 31 ผลงาน ระดับอาชีวศึกษา 35 ผลงาน สุดท้ายระดับอุดมศึกษา 28 ผลงาน
นายจิตวิสุทธิ์ เขียวสะอาด เจ้าของรางวัลชนะเลิศ ประเภทอุดมศึกษา ตัวแทนกลุ่ม “ชีวิตปี 4 มีแต่จุล” มหาวิทยาลัยศิลปากร ที่ส่งผลงานเรื่อง 1512 ฉันร้อง “สวัสดี” กล่าวให้ความเห็นว่า เป็นการเปิดโอกาสที่ดีมากให้กับเยาวชนได้ร่วมเสนอผลงาน และสะท้อนภาพวัฒนธรรมของไทยที่ค่อยๆ หายไป โดยเขาให้เหตุผลในการทำหนังสั้นเรื่องนี้ว่า ต้องการสะท้อนรูปแบบของงานลอยกระทงในสมัยจอมพล ป. พิบูลสงคราม ที่ประชาชนจังหวัดลพบุรี ยังคงร่วมใจกันอนุรักษ์ไว้อยู่
“เป็นการทำงานที่ค่อนข้างแข่งกับเวลา เพราะเราถ่ายทำกันได้แค่วันเดียวเท่านั้น การเตรียมพร้อม การวางแผนการทำงานจึงต้องเตรียมตัวไว้ตั้งแต่เนิ่นๆ สำหรับคนที่อยากเข้าประกวดการทำหนังสั้น ผมมองว่าถ้าอยากทำ ก็ต้องศึกษาข้อมูล ถามผู้รู้ เตรียมตัว แล้วก็ตั้งใจทำให้ดีที่สุด จากนั้นระหว่างการทำงานจะสอนเราเอง อย่างทีมผม พวกเราส่งงานเข้าประกวดมาเรื่อยๆ หลายเวทีแล้วเช่นกัน” จิตวิสุทธิ์ เล่าถึงการทำงาน
ประโยชน์จากการทำงานของพวกเขาในครั้งนี้ จึงไม่เพียงแต่เผยแพร่กิจกรรมที่รักษาไว้ซึ่งวัฒนธรรมประเพณีอันดีของไทยในสมัยก่อน แต่เชื่อเหลือเกินว่า จะกระตุ้นพลังความรักษ์ในความเป็นไทยให้กลับมาอีกครั้ง เช่นเดียวกับเสียงร้อง “รำโทน” ในหนังสั้นเรื่องนี้ ที่นานๆ ครั้ง จะได้ยิน แต่ไพเราะจับใจ…
เรื่องโดย: ชัชวรรณ ปัญญาพยัตจาติ Team Content www.thaihealth.or.th