กรมสุขภาพจิตเดินหน้าพัฒนาสุขภาพจิตคนไทย ลดความเครียด
ในปี 2556 กรมสุขภาพจิตเดินหน้า เร่งพัฒนางานสุขภาพจิต เพื่อทำให้ คนไทยมีความสุขสุขภาพจิตดี ลดความทุกข์ ลดความเครียด ลดความเศร้า ลดอัตราการฆ่าตัวตาย ตั้งเป้าพัฒนาเด็กไทยให้มีระดับ iq ไม่ต่ำกว่า 100 และร้อยละ 70 ของเด็กไทยมี eq ไม่ต่ำกว่าเกณฑ์มาตรฐาน แนะให้ประชาชนใช้หลัก 3r สร้างเสริม”พลังใจ” ให้เป็นคนมีสุขภาพจิตดี พร้อมรับมือกับการเปลี่ยนแปลงได้ทุกสถานการณ์
นพ.วชิระ เพ็งจันทร์ อธิบดีกรมสุขภาพจิตเผยสถานการณ์ปัญหาสุขภาพจิตคนไทยปัจจุบันยังน่าเป็นห่วงพบคนไทยป่วยโรคซึมเศร้ากว่า 1 ล้าน 4 แสนราย มีเพียงร้อยละ 29 เท่านั้นที่เข้ารับบริการ ในขณะที่คนป่วยโรคจิตเภท มี 4 แสนรายแต่เข้าถึงบริการ 3 แสนราย ส่วนปัญหาติดสุรามีร้อยละ 8 ปัญหาฆ่าตัวตายสำเร็จ 5.9 ต่อแสนประชากร ปัญหาสุขภาพจิตในผู้สูงอายุคือโรคสมองเสื่อมพบร้อยละ 3 ปัญหาสุขภาพจิตในวัยเด็กที่พบคือโรคออทิสติกประมาณ 6 หมื่นรายมีเพียงร้อยละ 1 เท่านั้นที่มารับบริการ ส่วนโรคสมาธิสั้นพบร้อยละ 8 โรคบกพร่องทางการเรียนพบร้อยละ 5 ค่าเฉลี่ยความฉลาดทางอารมณ์ (eq) และความฉลาดทางสติปัญญา (iq) ของเด็กไทยพบว่าอยู่ในเกณฑ์ปกติ (iq เฉลี่ย 99) ส่วนปัญหาท้องไม่พร้อมพบว่ามีวัยรุ่นหญิงไทยอายุ 10 – 19 ปีที่คลอดบุตรทั้งหมดในประเทศไทยมากถึงร้อยละ17
“รับศักราชใหม่ปี 2556 นี้ ภารกิจสำคัญอันดับแรกคือการทำให้คนไทยมีความสุขสุขภาพจิตดี “ลดความทุกข์ ลดความเครียด ลดความเศร้า ลดอัตราการฆ่าตัวตายของคนไทย” เพราะคนที่มีสุขภาพจิตดีจะสามารถอยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุข มีความเข้าใจผู้อื่น เข้าใจตนเอง สามารถปรับตัวให้เข้ากับสิ่งแวดล้อมและปัญหาที่เข้ามาในชีวิตได้ดี” นพ.วชิระกล่าว
นพ.วชิระกล่าวต่อไปว่า กรมสุขภาพจิตจะเร่งดำเนินการพัฒนางานสุขภาพจิตในทุกกลุ่มวัย ได้แก่วัยเด็ก วัยเรียนวัยรุ่น วัยทำงาน และวัยสูงอายุ มุ่งเน้นการส่งเสริมให้ทุกคนดูแลสุขภาพจิตตนเอง ดูแลสุขภาพจิตคนในครอบครัว ชุมชน และสังคมครอบคลุมทั้งผู้ที่มีสุขภาพจิตดี ผู้ที่เสี่ยงต่อการเกิดปัญหาสุขภาพจิต ผู้ป่วยจิตเวชหรือผู้มีปัญหาสุขภาพจิต และผู้ที่เผชิญภาวะวิกฤติ พัฒนาระบบบริการให้มีคุณภาพและเข้าถึงง่าย ทั้งการบริการดูแล การป้องกันและแก้ไขปัญหาสุขภาพจิต การรักษาพยาบาลโรคทางจิตเวช และการฟื้นฟูสภาพจิตใจ พัฒนาวิชาการและเทคโนโลยีทางสุขภาพจิต ที่เหมาะสม มีคุณภาพและประสิทธิภาพ สร้างกลไกในการพัฒนางานสุขภาพจิตผลักดันให้เกิดเครือข่ายด้านสุขภาพจิตที่เข้มแข็งร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งในและนอกกระทรวงสาธารณสุข
“ตั้งเป้าให้เด็กไทยได้รับการพัฒนาทางสติปัญญาจนมีระดับ iq เฉลี่ยไม่ต่ำกว่า 100 และร้อยละ70 ของเด็กไทยมี eqไม่ต่ำกว่าเกณฑ์มาตรฐาน มากกว่าหรือเท่ากับร้อยละ31ของผู้ป่วยโรคซึมเศร้าสามารถเข้าถึงบริการสุขภาพจิตที่ได้มาตรฐาน ไม่น้อยกว่าร้อยละ70 ของศูนย์ให้คำปรึกษาคุณภาพมีการเชื่อมโยงกับระบบช่วยเหลือนักเรียนในโรงเรียน เช่น ยาเสพติด บุหรี่ คลินิกวัยรุ่น ร้อยละ 80 ของอำเภอมีทีมวิกฤตสุขภาพจิตและทีมสุขภาพจิตฉุกเฉินคุณภาพ ซึ่งทั้งหมดนี้จะช่วยให้งานสุขภาพจิตในประเทศไทยมีการปรับปรุงและพัฒนา ช่วยลดการเกิดปัญหาสุขภาพจิตทำให้คนไทยมีสุขภาพจิตและคุณภาพชีวิตที่ดียิ่งขึ้น” อธิบดีกรมสุขภาพจิตกล่าว
อธิบดีกรมสุขภาพจิตยังได้กล่าวแนะนำให้ประชาชนใช้ “พลังใจ” เป็นแนวทางสร้างเสริมสุขภาพจิตที่ดีโดยใช้หลัก 3r r1.resistance (ทนแรงต้าน) คือความสามารถที่จะต้านทานกับความเครียดความกดดัน ทั้งที่เกิดจากความคิดความรู้สึกภายในตัวเองและสิ่งแวดล้อม การปรับมุมมอง การจัดการกับอารมณ์ความรู้สึกทางลบ การผ่อนคลายความเครียดจะช่วยให้อยู่ในสถานการณ์ที่มีความกดดันได้ r2.resilience (ผสานพลังใจ) คือพลังใจในการปรับตัวและกลับมาดาเนินชีวิตต่อไปได้ตามปกติภายหลังประสบกับเหตุการณ์ไม่คาดฝัน แม้แต่เหตุวิกฤต เช่นอุบัติเหตุ ภัยพิบัติ การตั้งสติ ควบคุมอารมณ์ให้สงบการสร้างกาลังใจขึ้นมาใหม่การหาที่พึ่งหรือแหล่งช่วยเหลือ และการแก้ไขปัญหาที่ดี จะช่วยให้ดำเนินชีวิตต่อไปได้ และr3.recovery (ไม่ท้อถอย) คือความสามารถที่จะฟื้นตัวจากความเจ็บป่วยหรือความล้มเหลว การให้เวลาเพื่อยอมรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น การมองเห็นทางออกของปัญหา การมีความหวังกาลังใจ และความพยายามอย่างต่อเนื่อง จะช่วยให้คนเราฟื้นตัวขึ้นมาได้
ที่มา : หนังสือพิมพ์พิมพ์ไทย